Wednesday, December 5, 2007

วัฒนธรรมไทย


การไหว้ วัฒนธรรมอันงดงาม
“การไหว้” เป็นการแสดงความเคารพ เป็นภาษาทักทาย ที่เป็นวัฒนธรรมอันงดงามรวมทั้งเป็นสิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชนชาติไทย ที่ปัจจุบันกำลังเลือนหายและถูกละเลยอย่างน่าเสียดาย จากผลการทำประชามติเพื่อสะท้อนภาพรวมของวัฒนธรรม ของอาจารย์ธีรยุทธ บุญมี เมื่อเร็วๆ ปรากฎว่า “ของดี” ของไทยที่คนคิดว่าหายไป คำตอบอันดับหนึ่ง คือวัฒนธรรมไทย เช่น การไหว้และรอยยิ้ม ฟังดูน่าตกใจไม่น้อย ประเทศไทยซึ่งเคย ได้ชื่อว่ามีวัฒนธรรมที่งดงามเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม (Land of Smile) ที่ผู้คนรู้จักไปทั่วโลก กลับกำลังสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป ทั้งๆที่การไหว้ ก็เป็นมารยาทแบบไทยๆที่เราคุ้นเคยกันดี ตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น มีผู้ให้ข้อสังเกตว่าส่วนหนึ่งอาจจะมาจากอิทธิพลของพิธีกรวัยรุ่นที่มักกล่าวคำทักทายผู้ชมทางบ้านโดย มิได้ “ไหว้” เพราะเราไม่เห็นความสำคัญของการทักทายแบบไทย แต่กลับเห็นว่าการทักทายแบบต่างประเทศเป็นของโก้เก๋ และเกิดการเลียนแบบกันต่อๆไป จึงเกิดเป็นแฟชั่นและความเคยชิน เราจึงเห็นคนในสมัยนี้ “ไหว้” กันน้อยลงหรือแทบจะหายไปอย่างที่ผลสำรวจของอาจารย์ธีรยุทธ ที่ได้นำเสนอความคิดเห็นของคนในปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้คงต้องวิงวอนไปยังผู้จัดรายการทั้งหลาย ให้ช่วยตระหนักและช่วยกันรักษา “ของดี” ส่วนนี้ของเราไว้ อย่างไรก็ดี เป็นที่น่ายินดี และภาคภูมิใจไม่น้อย ที่เมื่อเร็วๆนี้ คุณแทมมารีน ธนสุกาญจน์ และคุณภราดร ศรีชาพันธ์ สองเยาวชนไทยที่ไปร่วมแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียฮอพแมนคัพ และได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอย่างน่าชื่นชม ในความสามารถที่ยอดเยี่ยมแล้ว ผู้ชมทั้งโลกยังได้เห็นภาพของเยาวชนทั้งคู่ ก้มไหว้ ทั้งผู้ชมทั่วสนามหลังสิ้นสุดการแข่งขัน เป็นภาพที่นอกจากจะสร้างความประทับใจแล้วยังบ่งบอกให้ชาวต่างประเทศได้รู้ว่า “นี่แหล่ะคนไทย” จาก “การไหว้ “ อันเป็นวัฒนธรรมที่งดงามของไทย ที่ไม่เหมือน “การไหว้” ของประเทศอื่นใดในโลก“การไหว้” เป็นการแสดงความเคารพโดยการประนมมือให้นิ้วชิดกันแล้วก้มศรีษะ ซึ่งมีระดับที่แตกต่างตามลำดับผู้ที่จะได้รับเคารพ ดั้งนั้น เพื่อให้ผู้ปฎิบัติได้ทราบถึงวิธี”การไหว้”อย่างถูกต้องและงดงาม
การไหว้ แบ่งออกเป็น ๔ อย่าง
๑) ไหว้พระ ยกมือที่ประณมขึ้นจรดหน้าผาก ให้ปลายนิ้วหัวแม่มือจรดระหว่างคิ้ว ให้ปลายนิ้วชี้จรดตีนผม
๒) ไหว้บิดามารดา ครู อาจารย์ ยกมือที่ประณมขึ้นจรดส่วนกลางของหน้า ให้ปลายหัวแม่มือจรดปลายจมูก ให้ปลายนิ้วจรดระหว่างคิ้ว
๓) ไหว้ผู้ที่เคารพทั่วๆ ไป ยกมือที่ประณมจรดส่วนล่างของใบหน้า ให้ปลายหัวแม่มือจรดปลายคาง ให้ปลายนิ้วชี้จรดปลายจมูก
๔) ไหว้ผู้ที่เสมอกัน ไม่ต้องยกมือที่ประณมขึ้นจรดหน้า เพียงแต่ยกมือที่ประณมขึ้นนิดหน่อย ไม่ต้องก้มศีรษะ หรือก้มเพียงเล็กน้อย
เมื่อมีผู้ทำความเคารพด้วยการไหว้ ต้องรับไหว้ทุกครั้ง การรับไหว้ใช้ประณมมือแค่อก แล้วยกขึ้นเล็กน้อย ก้มศีรษะ

No comments: